- ผู้ผลิตเหล็กกล้าจีนเกือบ 100 รายปรับราคาขึ้นในวันจันทร์ เนื่องด้วยต้นทุนวัตถุดิบ เช่น แร่เหล็ก ที่สูงเป็นประวัติการณ์
ราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น 6.3% ในเดือนเมษายน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 6.9% ในเดือนมีนาคม และ 7.6% ในเดือนก่อนหน้า ตามการคำนวณของเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ซึ่งอ้างอิงจากดัชนีราคาเหล็กภายในประเทศจีน ซึ่งเผยแพร่โดยบริษัทที่ปรึกษาสตีลโฮม
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาเหล็กเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 ในรอบปี
ราคาที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปลายน้ำหลายแห่ง เนื่องจากเหล็กเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้าง เครื่องใช้ในบ้าน รถยนต์ และเครื่องจักร
การตัดสินใจของโรงงานเหล็กในจีนที่จะขึ้นราคาท่ามกลางต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ผลิตขนาดเล็กที่ไม่สามารถโยนภาระต้นทุนที่สูงขึ้นให้กับผู้ผลิตได้
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในจีนสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด โดยต้นทุนแร่เหล็ก ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในการผลิตเหล็กกล้า พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ส่งผลให้ผู้ผลิตเหล็กกล้าเกือบ 100 ราย รวมถึงผู้ผลิตชั้นนำ เช่น Hebei Iron & Steel Group และ Shandong Iron & Steel Group ปรับราคาในวันจันทร์ ตามข้อมูลที่โพสต์บนเว็บไซต์อุตสาหกรรม Mysteel
Baosteel ซึ่งเป็นหน่วยงานจดทะเบียนของ Baowu Steel Group ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดของจีน เปิดเผยว่าจะเพิ่มราคาผลิตภัณฑ์ที่จะส่งมอบในเดือนมิถุนายนขึ้นถึง 1,000 หยวน (155 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือมากกว่าร้อยละ 10
ผลสำรวจของสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นองค์กรกึ่งทางการที่เป็นตัวแทนของผู้ผลิตส่วนใหญ่ พบว่าเหล็กเส้นที่ใช้ในการก่อสร้างพุ่งขึ้นร้อยละ 10 อยู่ที่ 5,494 หยวนต่อตันในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เหล็กแผ่นรีดเย็นซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในรถยนต์และเครื่องใช้ในบ้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 อยู่ที่ 6,418 หยวนต่อตัน
เวลาโพสต์: 13 พฤษภาคม 2564